อย่าลืมมองข้ามฝาท่อที่ใครต่างก็เดินผ่านกันเถอะ

%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%9a

ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป การเดินทางเพื่อท่องเที่ยวก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เรานั้นได้พบกับศิลปะบนฝาท่อของญี่ปุ่นที่ได้โด่งดังไปไกล จนมีศิลปินชาวอังกฤษนามว่า Remo Camerota ได้ตระเวนถ่ายภาพฝาท่อทั่วประเทศญี่ปุ่นได้กว่า 2,700 แบบ จนออกมาเป็นหนังสือที่ชื่อว่า Drianspotting ที่รวบรวมภาพถ่ายฝาท่อไว้มากที่สุด ซึ่งได้สะท้อนถึงอิทธิพลของศิลปะที่นำมาผูกโยงกับเอกลักษณ์ของชุมชน จนกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกเลยทีเดียว คนที่ชื่นชอบล้วนแล้วแต่พากันตามการเดินทางนี้ เพื่อจะได้พบเจอสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ตอนนี้หลังจากที่ได้ไปเดินทางดูฝาท่อ แต่ก็คิดได้ว่าอยากรู้ถึงความเป็นไปเป็นมาซะเหลือเกินว่ามีมาได้อย่างไรกัน

มีคนเคยบอกไว้ว่าฝาท่อเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยโรมันโบราณ หรือ 753 ปีก่อนคริสตกาล ในยุคนั้นการสร้างเมืองจะสร้างตามแนวแม่น้ำขนาดใหญ่เพื่อให้แหล่งน้ำสามารถหล่อเลี้ยงชาวเมืองได้ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นต่อชาวเมืองที่อาศัยอยู่รอบๆ ได้ วิศวกรโรมันจึงแก้ปัญหาด้วยการสร้างท่อระบายน้ำไว้รอบเมือง ขณะเดียวกันวิศวกรก็ได้สร้างรูทางเข้าท่อระบายน้ำไว้สำหรับเข้าไปทำความสะอาด จึงก่อให้เกิด ‘ฝาท่อ’ ที่ใช้ปิดรูทางเข้านี้นั่นเอง แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจซะเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของแต่ละคนที่มาท่องเที่ยวแล้วจะต้องดู แต่เมื่อได้ลองสัมผัสเห็นชัดเลยว่า มันมีความสวยงามอยู่ในตัว ซึ่งถูกออกแบบให้แตกต่างกันออกไป จนเราลืมไปเลยว่า นี่หรอฝาท่อที่คนเดินเหยียบผ่านไปผ่านมา มีความสวยกว่าศิลปะบางชิ้นซะด้วยซ้ำ